จับแล้ว 2 พี่น้องร่วมกันชิงเงินกว่า 3.4 ล้านบาท

จับแล้ว 2 พี่น้องร่วมกันชิงเงินกว่า 3.4 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2, กก.สส.ภจว.ชลบุรี และ สภ.บ้านบึง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมกับพวก ได้ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหาได้ที่หน้าห้องพักเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 21 กันยายน ประกอบด้วย

1.นายจตุพล บุญมีสนม (น้องชาย) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.473/2565 ลงวันที่ 21 กันยายน 2565 และ

2.น.ส.ประภาภรณ์ บุญมีสนม (พี่สาว) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.474/2565 ลงวันที่ 21 กันยายน 2565

พร้อมด้วยของกลาง

1.เงินสดเป็นธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 2,970 ใบ, ฉบับละ 500 บาท จำนวน 387 ใบ และฉบับละ 100 บาท จำนวน 1,000 ใบ รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 3,263,500 บาท

2.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ หัวเว่ย รุ่น โนวา 9 เอสอี สีเทา-ดำ จำนวน 1 เครื่อง

3.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ วีโว่ รุ่น วี 21 สีฟ้า จำนวน 1 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจฯ”

พฤติการณ์จับกุมกล่าวคือ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.65 เวลาประมาณ 11.55 น. ขณะนายกฤษชพัฒน์ คนขับรถ และ น.ส.ประภาภรณ์ (พี่สาว) พนักงานบัญชีของบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ได้มาเบิกเงินที่ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาบ้านบึง จำนวน 3,500,000 บาท โดยแบ่งใส่กระเป๋าเป้ 3,460,000 บาท นายกฤษชพัฒน์เป็นผู้ถือ และใส่กระเป๋าสะพาย 40,000 บาท น.ส.ประภาภรณ์เป็นผู้ถือ

ทั้งสองคนได้นำเงินเดินไปที่จอดรถที่อยู่ด้านหลังธนาคาร ขณะที่อยู่บนรถได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดข้างรถแล้วเอาอาวุธปืนออกมาข่มขู่และชกต่อย นายกฤษชพัฒน์พร้อมกับด่าว่าเป็นชู้กับเมียคนร้าย นายกฤษชพัฒน์จึงได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีไป คนร้ายจึงได้หยิบเอากระเป๋าเป้ซึ่งมีเงิน 3,460,000 บาท ที่วางอยู่บนรถ ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

จับแล้ว 2 พี่น้องร่วมกันชิงเงินกว่า 3.4 ล้านบาท

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจสืบ ภ.2 สืบ จังหวัดชลบุรี และสืบ สภ.บ้านบึง ได้ร่วมกันสืบสวนจนพบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในป่าข้างถนน จากการตรวจสอบพบว่าผู้ครอบครองรถคือ นายจตุพล บุญมีสนม ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของ น.ส.ประภาภรณ์ซึ่งเป็นผู้เสียหายเอง และหลังเกิดเหตุ น.ส.ประภาภรณ์ก็ได้หลบหนีไป วิเคราะห์ว่าทั้งสองคนรู้เห็นกันในการก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้

จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับ นายจตุพลและ น.ส.ประภาภรณ์ต่อศาลจังหวัดชลบุรีเอาไว้ และร่วมกันสืบสวนติดตามตัวมาโดยตลอด จนต่อมาทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่หอพัก แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้งสองอยู่ที่หอพักดังกล่าว

จากการตรวจค้นพบเงินสดที่ได้จากการกระทำความผิด จำนวนรวม 3,263,500 บาท และโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง อยู่ภายในห้องพักของผู้ต้องหาทั้งสอง โดย น.ส.ประภาภรณ์ให้การยอมรับว่า รู้เห็นกับ นายจตุพลน้องชายที่มาก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้จริง เหตุผลที่ร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้มาจากต้องการช่วยเหลือน้องชายหาเงินเนื่องจากน้องชายเป็นหนี้ไฟแนนท์รถอยู่ และต้องการเงินไปสร้างเนื้องสร้างตัวกัน จึงวางแผนร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้

ส่วนนายจตุพลยอมรับว่าเห็นโอกาสที่จะสามารถเอาเงินได้ พี่สาวจึงมาบอกให้มาทำทีชิงเงิน โดยนัดหมายเวลาที่ชัดเจนล่วงหน้าไว้แล้วว่าประมาณก่อนเที่ยง วันที่ 20 กันยายนนี้ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่าคดีนี้คนร้ายลงมืออุกอาจตอนกลางวัน โดยมีการออกอุบาย เป็นคดีที่สนใจของประชาชน จึงได้มีการบูรณาการกำลังฝ่ายสืบสวนของ ภ.2 จนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดได้ พร้อมด้วยเงินสดของกลาง โดยได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ในการสืบสวนหาตัวคนร้ายใช้เวลาเพียง 1 วัน ผู้ต้องหาทั้ง 2 มีมูลเหตุจูงใจ เพราะอยากได้เงินไปก่อร่างสร้างตัวในวิธีการผิดๆ จึงต้องหมดอนาคต ทั้งที่ 2 คนไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดมาก่อน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ compagniedelongoeil.com

ufa slot

Releated